3 สิ่งที่ทำให้ โฆษณาบน Facebook "ประสบผลสำเร็จ"..หรือล้มเหลว..

พ่อเค้าแม่ค้าออนไลน์ … สูดหายใจให้ลึก ๆ แล้วอ่าน

#อ่านไม่ทันแชร์เก็บไว้อ่าน #ด้วยรักและหวังดี
ในมุมของลูกค้าใหม่ มีแค่ 3 สิ่งสำคัญ ที่คั่นตรงกลางระหว่าง #Inboxเพียบ กับ #Inboxเงียบ
.
คือเรียกว่า “สิ่งจำเป็น” ก็ว่าได้ #ห้ามขาดแม้แต่อย่างเดียว
.
อันว่า “สนามแข่ง ไม่ได้มีไว้สำหรับมือสมัครเล่น” คำกล่าวนี้ใช้ได้จริงครับ ทำไมผมถึงพูดแบบนี้.. เพราะยุคนี้เราต้องทำการตลาดแบบโคตรโฟกัส
.
เรียกว่า Content Marketing & Tools Crossover เลยนะครับ
และต้องเรียกใช้ให้เหมาะสมกับบริบท ณ ขณะ นั้นด้วย ไม่ใช้สุ่มสี่สุ่มห้าหยิบควักออกมาทั้งหมด
.
ขออธิบายธรรมชาติของ Facebook ก่อนนะครับ
.
Facebook เป็นการทำการตลาดแบบ Push Marketing คือ ผลัก โฆษณา ไปหาลูกค้า และไปสร้าง ความต้องการ หรือภาษาทางการตลาดเรียกว่าการสร้าง Demand ณ วินาทีที่ ลูกค้ากำลังเลื่อน Feed อยู่นั่นเอง
.
คีย์อยู่ตรงนี้ แล้วอะไรคือความต่างของคุณที่ทำโฆษณาแล้ว
ลูกค้าจะทักล้นทะลัก Inbox หรือ Line@ ค้างล่ะ?
.
หรืออะไรที่ทำให้โฆษณาแล้วเงียบอย่างกะป่าช้าล่ะ?
.
ผมบอกเลยมี 3 ปัจจัยหลัก ๆ เท่านั้น ไปดูกันที่ภาพต่อไปเลย

บนเนื้อที่แคปๆ ในเวลาไม่กี่วินาที คุณจะหยุดลูกค้าได้อย่างไร
3 ข้อที่พูดถึง คุณต้องทำให้ครบทุกข้อ ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้
และเป็น 3 สิ่งที่ต้องลงทุน
.
ถ้าคุณทำ กลุ่มเป้าหมายถูไถ ทำเนื้อหาแบบก็ทำได้แค่นี้มีแค่นี้ขี้เกียจแล้ว และว่าคุณต้องอัดข้อ 1 กระจุยกระจายเพื่อให้ได้ยอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้ เผลอไม่ได้อีก แล้วถ้า เงินที่ต้องจ่ายในการเพิ่มคนเห็นมันเยอะกว่ากำไรหละจะทำยังไง
.
รับให้คำปรึกษาการตลาด และการขาย แบบส่วนตัวเฉพาะธุรกิจของคุณ
.
ลงโฆษณาในยุควัดสายแข็ง
ทำโฆษณาโดยให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์เป็นหลัก
.
วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายโดยทีมงานมืออาชีพประสบการณ์มากกว่า 2,000 เพจ
เราใช้เครื่องมือวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย Audience Insight ไร้มโน
.
เราทำ A/B Testing ให้ ถ้า โฆษณา ไม่เวิร์คไม่ต้องเสียเวลารออนุมัติใหม่
ช่วยคุณออกแบบคำโฆษณา (แคปชั่นให้น่าสนใจ) เพื่อประสิทธิ์ภาพโฆษณาที่คุ้มขึ้น
.
ด้วยความเคารพ
#เม้นเพจคุณพร้อมเบอร์ที่ที่ต้องการให้ติดต่อกลับไว้ได้เลย