หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่า LGBTQ+ คืออะไร มันคืออักษรย่อของ Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender และ Queer หรือที่เราเรียกว่า กลุ่มเพศทางเลือก ที่มีความหลากหลายทางเพศนั่นเองครับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มของกลุ่ม Sub-Culture ที่มีอิทธิพลกับการทำตลาดมากในยุคนี้ครับ ถ้าใครที่ยังไม่รู้ว่ากลุ่ม Sub-Culture คืออะไร ก็ลองไปอ่านบทความ เตรียมรับมือ Sub-Culture กลุ่มที่นักการตลาดต้องจับตามองในปี 2020 ที่ผมเคยเขียนไว้ได้เลยนะครับ จะทำให้คุณเข้าใจและมองภาพบทความนี้ได้มากขึ้นครับ
ทุกคนรู้กันไหมครับตอนนี้ข้อมูลล่าสุดจาก www.lgbt-capital.com/ (บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินที่ให้บริการกลุ่ม LGBT เป็นหลัก) บอกเอาไว้ว่า ประชากร LGBTQ+ ทั่วโลกมีทั้งหมด 483 ล้านคน เป็นชาวเอเชียถึง 288 ล้านคน หรือคิดเป็น 60% จากทั่วโลกเลยทีเดียว ซึ่งประเทศไทยเราอยู่ในอันดับ 4 มีจำนวนมากถึง 4 ล้านคน และนี่ก็เป็นแค่คนจำนวนที่เปิดเผยเท่านั้นนะครับ ยังมีคนที่ยังไม่ได้ระบุอีกมากมายเลย ถือว่าค่อนข้างเยอะมากใช่ไหมครับ
ไม่ใช่แค่จำนวนคนที่เยอะนะครับ แต่อัตรารายได้ของพวกเขาก็สูงตามเหมือน มีรายได้มากถึง 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ค่อนข้างสูงมาก ลูกค้ากระเป๋าตุงแบบนี้ เราคงไม่อยากจะให้หลุดมือไปแน่นอน
สำหรับการตลาดในบ้านเราแล้ว ถึงตอนนี้จะเปิดรับเรื่องเพศมากขึ้น แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้ค่อนข้างน้อยอยู่ ทำให้ถ้าคุณยิ่งลงมือทำการตลาดกับเขาเหล่านี้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งได้ใจเขาไปไวเท่านั้นแต่ถึงจะอยากทำยังไงก็อย่าลืมศึกษาดีๆนะครับ มีหลายเคสที่พยายามจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเพศทางเลือก แต่ดันแป๊กกลายเป็นการเหยียดเพศขึ้นมาก็มีครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ Sensitive มากในปัจจุบัน ผมเลยอยากเตือนไว้ก่อนกันพลาดนะครับ
บทความนี้ผมเลยจะมาแนะนำ “กลยุทธ์ SPECTRUM” เป็นกลยุทธ์ที่จะให้คุณได้นำไปประยุกต์ใช้ในการทำการตลาด เพื่อมัดใจเหล่า LGBTQ+ จะมีอะไร และใช้ยังไงกันบ้างมาดูกันเลยครับ
S : Simple – การทำสินค้า หรือบริการให้ใช้ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องซับซ้อนวุ่นวาย และใช้เนื้อหาการที่เข้าใจง่าย ๆ ด้วยนะครับ เช่นการทำเว็บไซต์แบรนด์ของคุณ การออกแบบก็ไม่ควรใช้ยุ่งยาก เพื่อไม่ให้เกิดความซับซนกับผู้ใช้งาน
P: Private – สร้างกิจกรรม การรวมกลุ่มของคนที่มีความเหมือนกัน และที่ค่อนข้างเฉพาะตัว เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ หรือจะเป็นการสนับสนุนพวกเขาผ่านการทำสินค้า และบริการเพื่อพวกเขา เช่น ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปีจะมีการจัดงาน Pride Month ซึ่งเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับชาว LGBTQ+ โดยหลาย ๆ แบรนด์ก็มีการออกผลิตภัณฑ์ ออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า แบรนด์นั้นสนับสนุนพวกเขา
E: Equality – สร้างความรู้สึกเท่าเทียม หรือการได้รับโอกาสต่างๆ ในสังคมอย่างเสมอภาค โดยให้โอกาสในการเลือก และตัดสินใจบริโภคสินค้า หรือรับบริการ อาจจะเป็นการไม่กำจัดว่าสินค้า หรือบริการนั้นเหมาะสำหรับเพศไหน ยกตัวอย่างการแต่งกายสมัยนี้ ที่ปัจจุบันคนเริ่มไม่สนใจว่าเสื้อผ้านั้นผลิตมาเพื่อเพศไหน แต่เขาสนใจมากกว่าว่ามันดูดีกับพวกหรือเปล่า
C : Classy – ส่งเสริมความรู้สึกดูดี มีระดับ มีรสนิยม ด้วยการเลือกใช้วัสดุ โทนสี หรือการตกแต่ง รวมทั้งการมอบบริการอย่างมีระดับ เพราะไม่ว่าเพศไหน การที่ได้สินค้า และบริการดี ๆ ก็เป็นสิ่งที่คนเราต้องการทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่กลุ่ม LGBTQ+ เช่นกัน
T : Truth – สื่อสารอย่างจริงใจ ไม่บิดเบือน ไม่คลุมเครือ เพราะถ้าสิ่งที่คุณสื่อสารออกไป เป็นสิ่งที่จริงใจ และไม่ผิด ยังไงก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจให้กับพวกเขาได้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่จะทำแบรนด์ของคุณ เป็นที่ชื่นชอบ และยอมรับกับพวกเขา
R : Respect – ให้เกียรติและเคารพความเป็นตัวตนของพวกเขา เพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาที่ต้องการการยอมรับจากสังคม โดยเฉพาะเรื่องของความหลากหลายทางเพศ ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด เพราะในอดีตพวกเขามักจะถูกเลือกปฏิบัติมาตลอด แต่ถ้าแบรนด์ของคุณให้เกียรติ และไม่มองว่าพวกเขาแตกต่างจากคนทั่วไป มันก็สามารถทำให้พวกเขาอยากที่จะเลือกแบรนด์ของคุณแน่นอนครับ
U : Utility – สินค้า หรือบริการต้องใช้ประโยชน์ได้จริง ตอบสนองตรงตามความต้องการ หรือ สามารถแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของคนกลุ่มนี้ได้ โดยสินค้าต้องมีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน
M : Motivation – การสร้างแรงจูงใจโดยเชื่อมโยงถึงความภาคภูมิใจในตนเอง ความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือสร้างแรงบัลดาลใจในการใช้ชีวิต หรือการเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการยอมรับทางเพศ ผมขอยกตัวอย่าง โฆษณาจากแบรนด์ซันซิล “Sunsilk Healthier and Long” ( https://www.youtube.com/watch?v=hVpe3XCa1A0 ) ที่เล่าถึงเด็กคนหนึ่ง โดยใช้ความยาวของเส้นผมเป็นตัวเล่าเรื่องชีวิตพาตัวละครจากเด็กไปจนถึงจุดสูงสุดของความฝัน ซึ่งถือเป็นอีกก้าวที่ดีของซันซิลเลยก็ว่าได้ ที่กล้าหยิบเอาเรื่องราวของกลุ่ม LGBTQ+ มาใช้เป็นแรงบันดาลใจให้สาว ๆ กล้าออกไปตามฝันให้สุด
และวันนี้ผมก็ไม่ได้เอาฝากแค่กลยุทธ์นะครับ ผมยังรวมเอาการตลาดของแบรนด์ดังๆ ที่สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ กันอย่างเปิดเผย และแข่งขันกันอย่างคึกคัก กับแคมเปญที่สนับสนุนการเฉลิมฉลอง LGBTQ+ Pride Month ที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา เรามาดูกันครับว่า มีแบรนด์ไหนบ้างที่ทำ ออกมาในรูปแบบไหนกัน และน่าสนใจยัง
1.H&M – Love For All
แบรนด์ H&M ได้ออกสินค้าคอลเลคชั่น “Love For All” มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า โดยปล่อยออกมาเพื่อสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ หรือความรักทุกรูปแบบในโลก และรายได้ 10% ของยอดขายทั่วโลก ทางแบรนด์ก็จะนำไปบริจาคให้กับแคมเปญ Free & Equal ของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นแคมเปญที่ว่าด้วยเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกันของทุกคนบนโลกอีกด้วยครับ
2.Starbuck-Pride Cups
ถ้าคนที่ติดตามคอลเลคชั่นต่างๆของแก้วน้ำ Starbuck ก็คงอาจจะพอเคยเห็นกันบ้างใช่ไหมครับ โดยครั้งนี้ทางแบรนด์เองก็ได้ร่วม ได้เฉลิมฉลองให้กับ Pride Month ด้วยเหมือนกันครับ และแคมเปญในครั้งนี้ Starbuck จับมือกับมูลนิธิ Born This Way ของเลดี้กาก้า ระดมเงินบริจาคสูงถึง $250,000 เพื่อช่วยองค์กรด้านสุขภาพจิตและสนับสนุนองค์กรต่างๆทั่วประเทศที่ช่วยเหลือชุมชนและสังคม LGBTQ+ ครับ
3.MAC Cosmatics – MACLOVEPRIDE
แบรนด์ MAC ถือว่าเป็นแบรนด์ที่สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ มานานแล้วนะครับ แต่สำหรับคอเลกชันล่าสุดที่ออกมาเพื่อเฉลิมฉลองงาน Pride Month ที่ผ่านมา ทาง MAC ได้ปล่อยคอลเลกชัน #MACLOVESPRIDE ออกมา เรียกว่ามากันเป็นพาเหรดสีสายรุ้งเลยนะครับ แต่ที่เด็ดคือปรโมชั่น ซื้อลิปสติกใดๆ ในช่วงเดือนมิถุนายน จะได้รับลิปสติก MAC’s limited-edition Pride cap เป็นของขวัญไปด้วย ถือว่าเป็นการเอาใจเหล่า LGBTQ+ ได้เยี่ยมเลยครับ
ปัจจุบัน ความหลากหลายทางเพศถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวพวกเราอีกต่อไปแล้ว ซึ่งจากสถิติที่ผมได้พูดถึงไปตั้งแต่ก็คงทำให้คุณรู้แล้วว่า โลกของเรากำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว การให้ความสำคัญการตลาดกับกลุ่ม LGBTQ+ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากในตอนนี้ครับ ถ้าคุณไม่อยากที่จะเสียลูกค้า และอยากจะชนะใจพวกเขาที่กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการบริโภค ก็ต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ และเข้าใจพวกเขาให้มากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์กับตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมเอามาฝาก ก็คงเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้คุณเข้าถึงพวกเขามากขึ้นได้นะครับ
ติดตามเรื่องราวของการตลาดออนไลน์ได้ในช่องทางต่อไปนี้
Web site : https://www.adsidea.net
Facebook : Adsidea ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ สร้างยอดขายง่ายนิดเดียว
Line : http://line.me/ti/p/%40adsidea
อ้างอิงข้อมูล :
บทความ เรื่อง “กลยุทธ์เอาชนะใจลูกค้ากลุ่ม LGBT” ( www.businesslinx.globallinker.com )
บทความเรื่อง “เพศก็เหมือนเสื้อผ้า-อาหาร’ กะเทาะอินไซต์ความหลากหลายทางเพศ มากกว่าแค่ LGBT แต่มีถึง 30 กลุ่ม” ( www.brandbuffet.in.th )
บทความ เรื่อง “8 กลยุทธ์เจาะตลาด “LGBT” กลุ่มเพศทางเลือก รายได้สูง” ( www.businesstoday.c
095-6351606
ติดต่อเรา