ช่วงหลังๆ ค่าโฆษณา Facebook แพงเวอร์

บางคนบอกว่า  ขายดีไม่มีกำไร  บางคนก็ขายได้แต่ขาดทุน
วันนี้ผมจะไม่พูดถึงปัจจัยอื่นๆ นะครับ
แต่จะมาให้เทคนิคการควบคุมค่าโฆษณาให้ไม่แพงเวอร์  และ  เทคนิคการป้องกันค่าโฆษณาแพงด้วย Facebook Rule (การสร้างกฎให้กับโฆษณาของคุณ)
.
หลายครั้งที่ ADSIDEA สอนลงโฆษณาบน Facebook มักจะให้วิธีการนี้กับผู้เรียนไปด้วย
เพราะว่ามันเป็นวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ทำให้เราไม่ต้องมานั่งดูโฆษณาและ นั่งปรับเองไปซะทุกอย่าง เพราะบางครั้งปรับไม่ทัน
งบบานปราย ก็ทำให้ขาดทุนในวันนั้นได้เหมือนกัน
วิธีการคิดของผมในการใช้เครื่องมือตัวนี้ Facebook Rule จริงๆ เป็นแนวคิดที่ธรรมดามากๆ คือ
1. โฆษณาตัวไหนดี เราควรเพิ่มงบ
2. โฆษณาตัวไหน แพงเกินไป ถึงยิงแล้วลูกค้าเข้าก็ไม่คุ้ม เราควรปิด แล้วปรับปรุงใหม่
3. โฆษณาตัวไหนที่ลูกค้าคนเดิมเห็นซ้ำๆ ในเนื้อหาเดิมแล้ว ผลลัพธ์เริ่มดร็อปลง ก็ทำการปิดไปซะ

วันนี้ ADSIDEA ไอเดียการนำกฏต่างๆ ไปใช้

ตัวอย่างที่ 1 ของการใช้ Facebook Rule

อันนี้เป็นการทำโฆษณาแบบ คลิกเข้าเว็บไซต์
โดยผมยกตัวอย่างการให้เกณฑ์ไว้คือ ถ้าเมื่อไรก็ตามที่ค่าคลิกต่ำกว่า 5 บาท ให้ทำการเพิ่มงบทันที 20%

เช่น ปกติเรารันโฆษณาวันละ 500 ถ้าผลลัพธ์ออกมาเป็นไปตามเงื่อนไข
ให้ปรับงบเพิ่มอีก 20%

คำนวนแบบนี้คือ  500 + (500×20%) = 600 บาท ทันที
แต่จะจำกัดไว้ไม่เกิน 1,000 บาท ตามตัวอย่าง

ตัวอย่างที่ 2  ของการใช้ Facebook Rule

โดยปกติแล้วจากสถิติ เมื่อคนเดิม เห็นเนื้อหา เดิม ซ้ำๆ ผลลัพธ์โฆษณาจะดร็อปลง
ป้องกันคนเห็นโฆษณาซ้ำๆ ถ้าคนเริ่มเห็นโฆษณาเฉลี่ยเกิน 1.5 ครั้ง ให้ทำการปิดโฆษณาทันที
โดยการสร้างกฏซะเลย

ตัวอย่างที่ 3 ของการใช้ Facebook Rule

ข้อนี้แหละสำคัญมาก หัวใจของเครื่องมือตัวนี้เลยก็ว่าได้
ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ เช่น คุณขายของราคากำไรชิ้นละ 200 บาท
หากโฆษณาของคุณมีต้นทุนต่อการที่ลูกค้า 1 คนทักมา 50 บาท
อัตราการปิดการขายเฉลี่ย 20% คือ เข้ามา 5 คน ปิดได้ 1 คน
หมายความว่า คุณต้องใช้ค่าโฆษณา 250 บาท เพื่อให้ได้กำไร 200 บาท

เอ๊า ยิงโฆษณา ไม่รวมค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ก็ขาดทุนแล้ว ไม่รู้จะทำธุรกิจไปทำไมต่อ

เรามาดูตัวนี้กันครับ คิดง่ายๆ
ตอบคำถามมา 3 ข้อก่อนตั้งกฎนี้

1. คุณมีค่าเฉลี่ยของกำไรต่อ ออเดอร์เท่าไร
2. คุณมีอัตราการปิดการขายเฉลี่ย เท่าไร
3. นำมาซึ่งคำตอบคำ คุณยอมรับต้นทุนต่อ การมีลูกค้าทักมา 1 คนที่เท่าไร

ในกรณีนี้ผมยอมรับที่ 10 บาท ถ้าต้นทุนต่อลูกค้าทักมา  1 คนเกิน 10 บาท ให้ปิดชุดโฆษณาทิ้งไปซะ
ไปทำเนื้อหาใหม่ดีกว่า เพราะ ดันทุรังต่อไปแบบนี้ขาดทุนแน่นอน

ตั้งค่าตามภาพเลยครับ

ทีนี้ก็ตาคุณแล้วหละ จะเอาไอเดียนี้ไปปรับแต่งยังไงในโฆษณาของคุณ
สำหรับเครื่องมือตัวนี้ ถ้าใช้เป็นจะเป็นประโยชน์ กับ คุณอย่างมาก

จริงๆ แล้ว Facebook เราสามารถในไปปรับใช้ได้หลายอย่างมาก 3 ตัวอย่างด้านบนเป็นเพียงไอเดียที่ผมเองใช้บ่อย
ใช้เองแล้วเห็นผลเลยนำมาแชร์กันนะครับ

เพื่อเป็นกำลังใจให้ทำเนื้อหาแบบนี้ต่อไป
ได้ผลยังไงมาเล่าให้ฟังกันด้วยนะครับ