10 นิสัยที่ ตัวแทนเงินล้าน มักมีเหมือนกัน
อันนี้เล่าผ่านประสบการณ์นะครับ
จากที่เคยอยู่งานหลังบ้านมาแล้วมากว่า 2,000 เพจ ตัวแทนเงินล้าน
.
คือ ADSIDEA ทำงานอยู่เบื้องหลัง(งานด้านการตลาดออนไลน์) มีลูกค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย หลายรายลงโฆษณาวันละ หลาย ๆ พัน บางคนก็ทำโฆษณาวันละเป็นหมื่น ๆ
.
ผมก็ถามเค้าว่า “ยอดขายเป็นยังไงบ้างครับ ?”
.
ปรากฏคำตอบที่ได้ … เฮ้ย เค้าเปิดบิลกับเจ้าของแบรนด์เดือนนึงเป็นล้าน ๆ
.
เฮ้ย ผมคิดแล้วว่าไม่ธรรมดาแน่
.
ผมก็อยากที่จะเริ่มตามแกะรอยละครับ ก็ได้มีการคุยกับตัวแทนรายนี้มากขึ้น อยากรู้ว่าคนที่เค้าเป็นตัวแทน ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ทำไมถึงมียอดขายเยอะขนาดนี้
.
และผมได้ข้อสรุปแล้วครับ… และก็จะมาเล่าให้ฟังเป็นข้อ ๆ เลย ในโพสต์นี้เลย
ผมชมเค้าว่า… “พี่ๆ ขายดีจังเลย ดีใจด้วยนะครับ”
คุยกันไปสักพักใหญ่… พี่แกก็เล่าแบบจัดเต็ม
คือแกอินกับสินค้ามาก ชนิด ลองมาแล้วเชื่อหมดใจ
ข้อดี ข้อเสีย อย่างไรรู้หมด
บอกสรรพคุณได้หมดจด พร้อมทั้งให้ข้อแนะนำดีมาก
สุดท้าย ผมโดนซะงั้นจัดมา 1 กระปุก เฮ้ยบ้าไปแล้ว
คือผมพยายามจะบอกว่า… ถ้าเราอินหรือเชื่อในสิ่งไหนครับ
เวลาเราพูดหรือ พรีเซนต์ จะทรงพลังมาก
การเชื่อในสินค้า เป็นตัวเสริมพลังสำคัญของการทำ
การขายโคตรๆ เลยครับ
อันนี้ก็เรื่องสำคัญนะครับ
ถ้าเรารู้สึกไม่ดีกับใครคงทำงานและสื่อสารกับคนนั้นยาก
เช่นกัน ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีกับเจ้าของแบรนด์คุณจะลำบากใจในการขาย นอกจากขายไม่ดีแล้วยังไม่มีความสุขด้วย
เพราะนึกถึงเจ้าของแบรนด์ที่ไรก็หมดพลัง
จริงแล้วเผมจะบอกว่าพวกเราน่ะ(คนที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่) สบายแล้วนะครับ
ถ้าคิดกำไรต่อหน่วย ได้มากกว่าเจ้าของแบรนด์อีก
รวมทั้งปัญหาร้อยแปดพันเก้าก็ไม่ต้องจัดการเอง
ไม่ต้องสร้างแบรนด์เอง ไม่ต้องกังวลเรื่องการผลิต
ไม่ต้องหอบเงินที่เป็นล้าน ๆ ไปสต๊อกของรับความเสี่ยงเท่าเค้า(เจ้าของแบรนด์)
จงรู้สึกดีต่อกัน และรักกันครับที่ผมจะบอก
แล้วยอดขายจะออกมาดีต่อใจ
ซึ่งไม่เวิร์คเอามากๆ สำหรับ SME เพราะไม่นานธุรกิจคุณจะตายไ
เนื่องจากไม่มีอะไรเป็นกำแพงที่จะทำให้คุณอยู่รอดได้เลยเมื่อโดนโจมโตด้วยสงครามราคาจากนายทุนที่ผลิตสินค้าได้ถูกว่าคน
คือลูกค้าคนนี้เค้ามักส่งแคปชั่นที่คิดมาให้ช่วยวิเคราะห์ว่าโอเคแล้วรึยัง
แล้วมาทีมาเป็นชุด แล้วมีบอกด้วยพี่คิดเองเลยนะ
(ไอ่เราก็ใจดีดูให้)
ซึ่งหลายอันเจ๋ง มากๆ
ผมเองยังติดเลยว่าคิดได้ไง
ก็ช่วยปรับแต่ง เพิ่ม ลบ แก้ไขไป
ประเด็นคือ Wording ที่พี่แกคิดมา
โคตรคูลอ่ะ เพราะ เค้าอินกับสินค้าไงครับ
และรู้ปัญหาลูกค้า ว่าลูกค้ามีปัญหา และต้องการอะไร
สุดท้ายถึงจะมีใครก๊อบเค้าก็ไม่สนครับ คิดใหม่ได้ตลอด
เพราะเค้าเข้าใจดี อะไรที่เคยดีพอถูกใช้บ่อยๆ มันก็น่าเบื้อได้เหมือนกัน ใครก๊อบก็ไม่สนไม่ด่า เดินหน้าอย่างเดียว
หลายคนบอกแบรนด์ไม่ทำอย่างโน้น ไม่ทำอย่างนี้
ใช่ครับ เจ้าของแบรนด์ก็คน ซึ่งมีตัวแทนหลายคน แน่นอน ไม่สามารถทำให้ถูกใจตามความต้องการของทุกคน
ผมเห็นตัวแทนบางคนทำ Video สินค้าเองเลยนะ
จ้างกราฟิกทำงานอย่างกับเป็นเจ้าของแบรนด์เอง
แล้วผลลัพธ์ก็คุ้มค่ากับความพยายาม
บางคน Live สดสร้าง Content เองด้วย เพราะรู้ว่าการ Live สดนี่ลดต้นทุนทางการตลาด และสร้างการมีส่วนร่วมได้เยอะมากๆ
ตรงนี้แอบขายของก่อน เดี๋ยวผมจะมี Live สดสอนการตลาดออนไลน์ด้วยนะครับ ใครอยากดูเมนต์ใต้โพสนี้ว่าอยากดูนะครับ เป็นกำลังใจให้ผมด้วย
ที่ดูแล้วหลายคนครับ ที่ยอดขายเยอะ
เพราะเค้า “ใส่ใจ” ลูกค้ามาก แล้วเกิดอะไรขึ้นหละครับ …ขายดีสิครับ
มีตัวแทนแบรนด์เดียวกัน ขายของเดียวกันเยอะแยะ
ใช่มั้ย
แต่ข้อนี้แหละครับ ที่มันทำให้ลูกค้าไม่ไปซื้อกับตัวแทนคนอื่น หรือเพจอื่น
ทำ R & F (record and follow บันทึกและติดตาม) ให้ดีนะครับ เดี๋ยวนี้ใน Messenger ติด Tag ได้
ความหมายของผมคือ ลูกค้า
ต้องเก็บข้อมูล เช่น ชื่อ , ที่อยู่ ,อีเมล์ , วันเกิดอะไร ซื้อะไรไปบ้าง ซื้อไปเมื่อไร
เช่น คุณขายยาลดน้ำหนัก
ควรมีบันทึกพวกนี้ไว้เลย ว่า…
3 วันต้องทักไปว่าได้ของหรือยัง
5 วัน ต้องถามแล้วว่าทานแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
14 วันต้องถามแล้ว ว่าเริ่มลดแล้วหรือยังค่ะ
25 วัน ต้องสอบถามผลและขายซ้ำได้แล้ว
เห็นมั้ยครับ แต่ละขึ้นตอนรวมกันใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที
แต่ได้ยอดขายแน่นอน ไม่ต้องหาลูกค้าใหม่ ไม่มีต้นทุนทางการตลาด
กำไรเต็มๆ ครับ
พัฒนาตัวเองอยู่เสมอครับ
ผมมักเจอตัวแทนตามงานสัมนา
หรือ แม้กระทั้ง คอร์สของผมเอง
เดี๋ยวนี้การแข่งขันสูงครับ
เราจะใช้ความรู้เท่าเดิม
แข่งกับคนอื่นได้อย่างไร
อย่าลืม คู่แข่งไม่ได้เยอะขึ้นอย่างเดียว
คู่แข่งเก่งขึ้นด้วย ครับ
กล้าลงทุน
กล้าลงทุนในที่นี้ตัวอย่างเช่น
กล้าลงทุนทำสื่อ ทำการตลาด ทำโฆษณา
และที่สำคัญกล้าสต๊อกของด้วย
ก็เป็นหลักปกติครับ สต๊อกเยอะ ก็กำไรเยอะ
ยกเว้นคนไม่มีทุนจริงๆ หลายแบรนด์เดี๋ยวนี้ผมก็เห็นมีเรทมินิ ลงทุนแค่สองพันบาท หรือ dropship ก็มี
ไม่โจมตีแบรนด์อื่น
คือไม่มีลูกค้าคนไหนรู้สึกดีเวลาเราโจมตีคนอื่นหรอกครับ
ถึงจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม
มันบ่งบอกถึงนิสัย… ไม่ดีเลยครับ อย่าทำเด็ดขาด
สู้ไม่ถอย หลายๆ คนครับ
ไปเปิดบิลมา พอขายไม่ได้โวยวาย
แปปเดียวท้ออยากเลิกขาย
สิ่งที่ผมจะฝากไว้คือ ตัวเราเองแหละครับ กำหนดอนาคตตัวเอง
การทำธุรกิจมันมีผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
สิ่งที่ต้องทำคือ เรียนรู้ ล้มเหลว ปรับปรุง
แล้ว…ลุยต่อครับ
รับให้คำปรึกษาการตลาด และการขาย แบบส่วนตัวเฉพาะธุรกิจของคุ
Facebook: Adsidea ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์สร้างยอดขายง่ายนิดเดียว
Line: http://line.me/ti/p/%40adsidea