Google Search คือ การทำโฆษณาผ่านเครือข่าย Google เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงกลุ่มที่สุด ซึ่งองค์ประกอบหลักของการทำโฆษณา Google Search นั่นก็คือ “Keyword” เพราะการแสดงผลโฆษณาของ Google จะอาศัยการค้นหาจาก Keyword เป็นหลัก
หากเลือก Keyword ดี ก็จะทำให้เกิดอัตราการคลิก หรือ (CTR) สูง ทำให้กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณมีโอกาสเจอคุณก่อนคู่แข่งของคุณ และเป็นการช่วยในการเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นนั่นเองครับ
Broad Match = Keyword แบบกว้าง
โฆษณาจะไม่เพียงแสดงผลลัพธ์คำที่ค้นหาด้วยคำที่ตรงกันเท่านั้น แต่อาจจะแสดงผลลัพธ์ Keyword ใกล้เคียงกันด้วย
เช่น มีการค้นหาด้วยคำว่า ฟิวลิ่ง ฟิวเตอร์ ก็อาจจะเจอเว็บเราที่ลง Keyword ฟิลเลอร์ แบบกว้างไว้เช่นกัน
Phrase Match = Keyword ที่มีความเจาะจงมากกว่า 2 แบบแรก
โดยจะต้องใส่เครื่องหมายคำพูด เช่น “ฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ”
โฆษณาจะแสดงผลเมื่อมีผู้ค้นหาด้วยคำเดียวกับที่เราได้เลือกไว้ ถึงแม้จะมีการแทรกหรือสลับ เช่น “ลดใต้ตาคล้ำด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา”
Exact match = Keyword แบบแคบและมีความเจาะจงมากที่สุด
โดยจะใส่เครื่องหมายวงเล็บแบบเหลี่ยม เช่น [ฟิลเลอร์ใต้ตา] โฆษณาจะแสดงผลเมื่อมีการค้นหาว่า ฟิลเลอร์ใต้ตา เท่านั้น
จะไม่แสดงผลการค้นหาอื่น ยกตัวอย่างเช่น หากค้นหาด้วยคำว่า ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ริ้วรอย ฟิลเลอร์หน้าผาก ก็จะไม่ขึ้นโฆษณาของเรา
Negative
เป็นการยกเว้นไม่ให้โฆษณาแสดงผล หากมีการค้นหาคำนั้นๆ
ตัวอย่างเช่นการเลือกคำว่า ฟิลเลอร์ราคาถูก ไปในส่วนของ Negative Keyword หรือคีเวิร์ดเชิงลบ
ตัวอย่าง เช่น
ถ้าเราต้องการลูกค้ากลุ่มที่ค่อนข้างมีกำลังจ่าย ในการเข้ารับบริการฟิลเลอร์ใต้ตา
เราควรยกเว้นคำว่า ฟิลเลอร์ราคาถูก ให้เป็นคำที่เราเลือกว่าเป็นคีเวิร์ดเชิงลบ
โฆษณาของเราจะไม่แสดงผลเมื่อมีการค้นหาว่า ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูก
เป็นการช่วยกรองกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ลูกค้าของเราออกไป
ต้องการทีมการตลาดออนไลน์
เพียงทักมาปรึกษาเรา
ADSIDEA
Facebook : Adsidea ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ สร้างยอดขายง่ายนิดเดียว
LINE : @adsidea
โทร : 095-635-1606