เทคนิคปรับเว็บไซต์เพิ่มยอดขาย เว็บก็เปรียบเสมือนหน้าร้านของเรา เป็นสิ่งที่โชว์ให้ลูกค้าเห็นว่าร้านของเราเป็นรูปแบบไหน ขายสินค้าหรือบริการอะไรบ้าง หน้าร้านจะหรูหรา เรียบง่ายหรือธรรมดาก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสร้างหน้าร้านของคุณออกมาให้ลูกค้าเห็นแบบไหนนั้นเองครับ แต่การสร้างหน้าเว็บเพื่อดึงดูดลูกค้าพียงอย่างเดียวมันไม่พอหรอกครับ เพราะเมื่อลูกค้าเข้ามาหน้าร้านคุณแล้วแต่ถ้าพวกเขาหาสินค้าที่ต้องการไม่เจอเข้าก็กดออกไปอยู่ดี
แล้วคุณจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้น้อยที่สุดล่ะครับ วันนี้ผมมีเทคนิคการทำเว็บของคุณให้ Personalization ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนลูกค้าที่หลงเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ ให้กลายเป็นลูกค้าของคุณได้ง่ายขึ้น แถมพวกเขาอาจจะกลายเป็นลูกค้าขาประจำของคุณไปเลยก็ได้นะครับ
1.สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ
“คุณไม่มีโอกาสครั้งที่สองในการสร้างความประทับใจในครั้งแรก” สิ่งที่คุณต้องคือทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ชมที่เข้ามาในเว็บของคุณเข้าใจและรู้ตั้งแต่แรกเห็นว่าเว็บของคุณคือเว็บอะไร ขายสินค้าอะไรและน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ไม่ใช่ทุกคนที่เข้ามาในเว็บของคุณครั้งแรกจะเข้ามาตาม Journey เสมอไปหรอกครับ เพราะบางคนอาจจะมาจากการเสริชจากกูเกิลแล้วมาเจอหน้าร้านของคุณ หรือบางคนอาจจะตามลิงค์จากที่อื่นมาแล้วมาโผล่ที่หน้าเว็บเราก็ได้เช่นกันครับ
ดังนั้นคุณต้องทำหน้าเว็บของคุณให้มีความสะดุดตา ใช้เนื้อหาและภาษาที่อ่านครั้งแรกแล้วเข้าใจได้ทันทีโดยที่พวกเขาไม่ต้องมานั่งสงสัยและหาคำตอบว่าเว็บนี้คืออะไร อีกอย่างต้องออกแบบให้เว็บของคุณใช้งานง่ายที่สามารถทำให้พวกเขาสามารถไปยังหน้าหลักของคุณได้เร็วที่สุด เพื่อให้พวกเขากลับมายัง Journer ที่คุณวางไว้อย่างเร็วที่สุดครับ
2.อย่ามัวแต่หาลูกค้าใหม่ เพราะลูกค้าเก่าสำคัญที่สุด
คุณทราบหรือไม่ว่าการมัวแต่มองหาลูกค้าใหม่ ๆ จนไม่ให้ความสำคัญกับลูกค้าที่คุณมีอยู่ปัจจุบันเป็นการใช้ต้นทุนมากและเสียเวลาอย่างมากครับ เพราะการที่ลูกค้ายังกลับมาที่เว็บคุณซ้ำ ๆ มันเป็นสัญญาณที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขายังสนใจสินค้าของพวกคุณอยู่
ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือแสดงให้พวกเขาเห็นสิครับ ว่าพวกคุณจำพวกเขาได้นะ มีอะไรให้ช่วยเหลือหรือเปล่า แสดงให้พวกเขาเห็นไปเลยครับว่าพวกคุณใส่ใจพวกเขามากแค่ไหน ยิ่งถ้าเป็นลูกค้าประจำคุณต้องดูแลพวกเขาให้ดีกว่าลูกค้าทั่วไปเพื่อทำให้พวกเขารู้สึกดีและพร้อมที่จะจ่ายเงินให้พวกคุณมากขึ้น
อีกอย่างที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ คุณต้องเปลี่ยนลูกค้าขาประจำให้พวกเขาเป็นผู้สร้างคอนเทนต์หรือแนะนำสินค้าของคุณให้กับผู้อื่นให้ได้ เช่น การให้พวกเขาแนะนำคนรอบข้างหรือช่วยเขียนรีวิวดี ๆ เกี่ยวกับสินค้าของคุณ เป็นต้นครับ
3.Location-Driven Content
หลาย ๆ เว็บในตอนนี้มักจะชอบขอการเข้าถึงโลเคชั่นของลูกค้า แต่ไม่ค่อยเอาข้อมูลส่วนนี้มาใช้ประโยชน์กันสักเท่าไหร่ ดังนั้นสิ่งที่นักการตลาดที่ดีแบบเราควรจะทำก็คือ เมื่อมีข้อมูลในส่วนนี้แล้วคุณจะต้องปรับเว็บให้สามารถแสดงร้านค้าของคุณที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งของลูกค้าให้พวกเขาเห็นตั้งแต่หน้าแรก เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าโลเคชั่นที่ให้ไปนั้นเห็นผลจริง ๆ นะ ไม่ได้เอาเฉย ๆ
เพราะการที่เราสามารถเข้าถึงโลเคชั่นของลูกค้าได้ มันจะช่วยให้เราสามารถปรับเนื้อหาภายในเว็บให้สอดคล้องกับที่ที่ลูกค้าอยู่ได้อีกด้วยครับ เช่น ถ้าคุณเข้าเว็บของ KFC แล้วคุณกดอนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่งของคุณ หน้าเว็บก็จะแสดงสาขาที่อยู่ใกล้คุณที่สุดขึ้นมา สามารถทำให้คุณเดินทางสะดวกและไม่ต้องไปร้านไกล ๆ อีกด้วยครับ
4.ปรับเปลี่ยนขนาดเว็บให้เข้าได้กับทุกอุปกรณ์
คุณอย่าลืมนะครับว่าการแสดงผลหน้าเว็บของแต่ละอุปกรณ์มันก็สำคัญ สิ่งที่คุณควรทำก็คือการออกแบบเว็บที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสิ่งที่ลูกค้าใช้เข้าชมเว็บของคุณ เช่น การเข้าถึงผ่านมือถือ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เป็นต้น แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ในตอนนี้ก็คือการออกแบบเว็บที่เน้นมือถือเป็นหลักครับ เพราะในตอนนี้มือถือกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตไปแล้ว การจะเข้าดูอะไรต่าง ๆ ก็มักจะใช้มือถือเป็นหลัก เพราะมันสะดวก ง่ายและสามารถดูที่ไหนก็ได้นั่นเองครับ
ดังนั้นคุณอย่าลืมดูด้วยนะครับว่าลูกค้ากำลังเข้าถึงเว็บคุณผ่านอุปกรณ์แบบไหน เพื่อจะได้แสดงผลเป็นไปตาม Personalized ตามมือถือของแต่ละคน เพราะลูกค้าทุกคนก็คาดหวังจะสามารถใช้เว็บของคุณอย่างเต็มที่เสมือนหน้าจอคอม ถึงแม้จะอยู่แค่มือถือหน้าจอ 5-6 นิ้วก็ตามครับ
5.ให้ลูกค้าล็อคอินผ่าน Social media account
อีกวิธีในการทำ Personalized ที่ผมอยากแนะนำก็คือการใช้โซเชียลมีเดียของลูกค้า เพราะการที่คุณให้ลูกค้าสามารถล็อคอินผ่านโซเชียลมีเดียของพวกเขาได้มันจะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกของเว็บคุณได้ง่ายขึ้น เพราะพวกเขาไม่ต้องเสียเวลามานั่งกรอกข้อมูลใหม่ แค่กดคลิ๊กเดียวก็สามารถสมัครสมาชิกได้แล้วทั้งง่ายทั้งเร็วเลยใช่ไหมครับ แถมคุณก็จะได้ข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้าหรือแม้แต่ข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ เท่าที่สามารถขอได้แบบง่าย ๆ ด้วยล่ะครับ
อีกอย่างทุกวันนี้ทุกคนแชร์ทุกอย่างที่ต้องการหรือสนใจผ่านโซเชียลมีเดียแทบจะตลอดเวลา และการที่คุณสามารถทำให้พวกเข้าใช้บัญชีเชื่อมต่อกับเว็บของคุณได้อย่างง่าย ๆ ก็จะทำให้คุณเองสามารถเข้าใจ insight ของลูกค้าได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงพวกเขาได้ถูกจุดอีกด้วยครับ
6.พฤติกรรมการใช้เว็บบอก Insinght ได้
พฤติกรรมการเข้าใช้งานเว็บของลูกค้ามันเป็น Insinght ที่พวกคุณไม่ควรมองข้าม ยิ่งคุณเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าแบบ real time ด้วยการตามดูว่าพวกเขาอยู่ในแต่ละหน้าเว็บนานเท่าไร จากนั้นพวกเขาไปไหนต่อหรือมีการคลิ๊กดูหรือสนใจอะไรเป็นพิเศษในเว็บของคุณหรือไม่
เช่น ถ้าคุณรู้ว่าลูกค้ากำลังอยู่หน้าเปรียบเทียบราคาแต่ไม่ยอมตัดสินใจซื้อสักที คุณอาจจะปล่อยคูปองส่วนลดหรือข้อเสนอบางอย่างออกไปเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของพวกเขามากขึ้น
ยิ่งคุณสามารถวิเคราะห์ลูกค้าได้ดีเท่าไร คุณก็จะสามารถวางแผนการตลาดของคุณได้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มหรือในลูกค้าแต่ละคน รวมไปถึงการจัดการงบประมาณในการใช้จ่ายแต่ละส่วนว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหนได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
เทคนิคปรับเว็บไซต์เพิ่มยอดขาย
และนี่ก็เป็นเทคนิคการปรับเว็บไซต์ให้ Personalized ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่พวกคุณก็สามารถทำตามได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือวิธีอะไรให้ยุ่งยากวุ่นวายเลยครับ เพียงแค่พวกคุณต้องทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละคนที่เข้ามายังเว็บของคุณให้ได้ ว่าพวกเขาอยากเห็นอะไรหรือต้องการอะไรจากเว็บของพวกคุณ และปรับแต่งเนื้อหาหรือลิงก์ข้างในให้ตอบโจทย์กับลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด แล้วดูแลลูกค้าชั้นดีให้แตกต่างจากลูกค้าทั่วไป แค่นี้เว็บของคุณก็จะเป็นเว็บไซต์ที่ Personalization ในแบบที่ลูกค้าต้องเทใจให้อย่างแน่นอนเลยล่ะครับ
“Personalized Marketing” ต้องรู้ใจ ก่อนลูกค้ารู้ตัว
ติดตามเรื่องราวของการตลาดออนไลน์ได้ในช่องทางต่อไปนี้
Web site : https://www.adsidea.net
Facebook : Adsidea ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ สร้างยอดขายง่ายนิดเดียว
Line : http://line.me/ti/p/%40adsidea
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.sitecore.com/knowledge-center/digital-marketing-resources/10-personalization-tactics-for-quick-wins