เจาะ 7 ธุรกิจดาวรุ่ง-ร่วงปี 2020

ธุรกิจดาวรุ่ง-ร่วง

เจาะ 7 ธุรกิจดาวรุ่ง-ร่วง ปี 2020 รู้ก่อนเสี่ยงเจ็ง!

หลายคนเบื่อที่ต้องทำงานบริษัทเบื่อที่จะต้องเป็นลูกน้อง ต้องการเป็นนายตัวเองมากขึ้นหันมาทำธุรกิจกันมากขึ้น การทำธุรกิจจึงต้องมีการวางแผนการจัดการให้ดี เพราะมีธุรกิจเกิดขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มีธุรกิจมีความผันผวนมากอีกปีหนึ่ง ผู้ประกอบการหลายรายต่างต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจของตนเองอยู่รอด และเริ่มต้นวางแผนมองหาลู่ทางในการขยายธุรกิจหรือปรับเปลี่ยนธุรกิจของตนเอง แต่ก็อย่างว่าแหละครับ มันก็มีทั้งธุรกิจที่ไปรอดและไปไม่รอด และในปี 2020 นี้มีธุรกิจไหนบ้างที่มีแนวโน้มที่ ธุรกิจดาวรุ่ง-ร่วง  ผมสรุปไว้คร่าวๆ ดังนี้

1. ธุรกิจเดลิเวอรี่

ธุรกิจประเภทนี้นับว่ามีแนวโน้มการเติบโตสูงมาก พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจนี้มีการขยายตัวต่อเนื่อง การเติบโตของธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร เมื่อก่อนการส่งอาหารเดลิเวอรี่ยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพแต่ในปีที่ผ่านมาได้กระจายออกมาต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นความสะดวกสบายและประหยัดเวลามากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและเล็ก สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้น อาหารเดลิเวอรี่กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ผู้คนให้ความสนใจ

ด้วยความสะดวกและรวดเร็วทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการกินอะไรต้องได้กิน อย่างคนที่จะเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นกว่าเดิมก็สามารถเข้าร่วมกับแอพพิเคชั่นอย่าง Foodpanda และ  Grabfood  เพื่อเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจของคุณได้

2. ธุรกิจอาหารคลีน

เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามอง เพราะคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ไม่ค่อยจะดูแลสุขภาพกันเท่าไร  แล้วยิ่งเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ก็เริ่มที่จะดูแลเรื่องอาหารที่ดีต่อสุขภาพกเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรง อาจจะด้วยไลฟ์สไตล์ที่เราตื่นเช้า มาทำงานเย็นกว่าจะกลับบ้านก็ดึก ทำให้กระแสรักสุขภาพเริ่มชัดเจนในช่วง 2-3 ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าต้องการไปได้ดีในธุรกิจนี้ นอกจากเรื่องรสชาติอาหารแล้ว อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องการจัดส่งที่รวดเร็วทันใจผู้บริโภคด้วย

ซึ่งเท่าที่ผมเห็นมาคือ ธุรกิจอาหารคลีนหลายเจ้าปรับตัวกันเก่งมา บางเจ้าไม่มีหน้าร้านแต่สามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากการมีบริการ Delivery  มาเป็นตัวช่วย ซึ่งอย่างที่ผมบอกไปในข้อแรกว่า ธุรกิจ Delivery เองก็ถือว่ามาแรงมากในปีนี้ และปีหน้าก็ยังเติบโตได้อีกมาก หากคุณสามารถจับตรงนี้ ผมมองว่าโอกาศเติบโตยังมีอีกมากครับ

3. ธุรกิจเสริมความงาม

ธุรกิจความเสริมงาม เป็นธุรกิจที่น่าจับตามองและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอหลายปี เพราะคนหันมาใส่ใจเรื่องการดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะค่านิยมด้านความงามยังคงมีอยู่ในสังคมไทย ขนาดบางอาชีพต้องอาศัยหน้าตาในการทำงาน การเสริมความงามมันเห็นผลทันตาเห็นครับ ไม่ต้องรอเหมือนการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว บวกกับความใจร้อนของคนเราที่อยากจะเห็นผลทันที เลยเลือกที่จะไปคลินิกเสริมความงามมากกว่าเลยทำให้ธุรกิจเสริมความงามยังอยู่รอดในปี 2020

เมื่อความนิยมสูงขึ้น แน่นอนว่าก็จะมีธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ  สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรใส่ใจคือเรื่องของคุณภาพ จากประสบการณ์ของผมการรักษามาตรฐานให้ดีสม่ำเสมอ คือหัวใจสำคัญ  ของการทำธุรกิจเสริมความงามเลย เวลาที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกทำที่คลินิกใดแล้วมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนใจไปหาคลินิกอื่น เพราะว่าเขาเกิดความไว้ใจที่นี่แล้ว ดังนั้นหากวันใดที่คลินิกของคู่แข่งมีมาตรฐานที่สูงกว่าของคุณ วันนั้นคุณต้องรีบเซฟลูกค้าเก่าของคุณไว้ให้ดีๆ เลยครับ

4. ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

จะเห็นได้ว่าโลกเข้าสู่สภาวะการเกิดน้อยลง ซึ่งปีหน้าเราก็จะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุกันเต็มตัว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ทั้งทางร่างกายและจิตใจจึงเป็นที่ต้องการ อย่างเช่น การบริการและดูแลแบบ Nursing Home บ้านและคอนโดฯ ทัวร์เฉพาะผู้สูงอายุ สินค้าอุปโภคบริโภคที่เหมาะกับกลุ่มผู้สูงอายุต่างๆ จะเริ่มเติบโตมากขึ้น  ซึ่งสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ จะต้องไม่ลืมว่าต้องประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุเข้าถึงง่าย ทำสินค้าและบริการโดยมุ่งเน้นนวัตกรรมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อตอบโจทย์อย่างครอบคลุมทุกความต้องการของผู้สูงอายุ

สำหรับธุรกิจที่ผมคิดว่ามีแนวโน้มของการแข่งขันสูง ถ้ายังไม่เร่งปรับตัวอาจจะต้องเจอวิกฤตคู่แข่งเป็นร้อยก็คือ

1. ธุรกิจร้านกาแฟ

ทำไมผมถึงมองว่าธุรกิจร้านกาแฟ มีแนวโน้มที่จะเป็นธุรกิจดาวร่วงในปีหน้า นั่นเป็นเพราะว่า จากข้อมูลศูนย์อัจฉริยะ เพื่ออุตสาหกรรมอาหาร ได้สรุปมูลค่าธุรกิจร้านกาแฟในไทย มีการคาดการณ์ว่าในปี 2562 ธุรกิจร้านกาแฟอาจสูงถึง 2.58 หมื่นล้านบาท ซึ่งถ้าหากติดตามธุรกิจนี้มาตลอดทั้งปี จะสังเกตได้ว่าธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นที่ให้ลูกค้านั่ง ไปจนธุรกิจร้านกาแฟ 24 ชั่วโมง เชื่อหรือไม่ครับว่าขนาดตัวผมเองยังมีเพื่อนที่ลาออกมาเปิดร้านกาแฟเลยครับ

ปัจจุบันนี้ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนหากเดินสะดุดล้มเงยหน้าขึ้นมาก็เจอร้านกาแฟแล้วครับซึ่งสิ่งที่ตามมาคือ ความเสี่ยงของธุรกิจนี้ เพราะด้วยพฤติกรรมของคนดื่มกาแฟ สิ่งสำคัญคือรสชาติ และบรรยากาศที่ดี ถ้าคุณมีฝีมือดี  มีทำเลทองก็มีโอกาสรอด แต่ถ้ามือใหม่รสไม่นิ่ง รสไม่ซ้ำเพราะจำสูตรไม่ได้ บอกได้เลยว่าเหนื่อยมาก เพราะถ้าขาดลูกค้าประจำที่จะหล่อเลี้ยงยอดขายให้ไปรอด ไม่นับรวมค่าใช้จ่ายภายในร้านที่คิดบัญชีแล้วเหลือกำไรเพียงน้อยนิด ไหนจะค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะสาเหตุนี้ไงทำให้เสี่ยงที่จะเซ้งกิจการ

อีกหนึ่งเหตุผลคือ ทุกวันนี้พฤติกรรมผู้บริโภคไหลไปตามรีวิว และธุรกิจร้านกาแฟถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่ติดอันดับในเรื่องของการรีวิว ลูกค้าจะแห่ไปยังร้านที่มีคนรีวิวเยอะๆ แต่เมื่อได้ไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็หมดความสนใจ ยากที่จะไปซ้ำอีกครั้ง หากร้านนั้นไม่น่าสนใจมากพอ

ทางรอดของธุรกิจนี้คือการปรับตัว เช่น การเพิ่มช่องทางในการส่ง Delivery เพื่อเพิ่มยอดขายอีกหนึ่งช่องทาง และก็ได้ลูกค้าหน้าใหม่ๆ เข้ามา  หรือคุณอาจจะต้องหันมาจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (Niche) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น เช่น คาเฟ่สัตว์เลี้ยง เป็นต้น

2. ธุรกิจสิ่งพิมพ์

จริงๆ แล้วธุรกิจนี้ผมมองว่ามันร่วงมานานแล้วครับ เพราะว่าทุกวันนี้ไม่มีใครไม่เล่นอินเตอร์เน็ตเลยก็ว่าได้ ตอนนี้เราแทบจะหาหนังสือพิมพ์อ่านไม่ได้แล้ว แม้แต่การรายงานข่าวต่างๆ ยังเปลี่ยนมารายงานตามสื่มีเดียต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ไวขึ้น บวกกับการเกิดกระแสต่างๆ อย่างกระแสการรักษ์โลก เพราะมีการตัดไม้มากขึ้นเลยมีกระแสให้คนเลิกตัดไม้มาทำกระดาษ หันไปสนใจที่จะอ่านหนังสือ E-book กันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์เริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ

เมื่อเดือนที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปเดินงานหนังสือใกล้ๆ ออฟฟิศ สังเกตเห็นได้เลยว่าร้านหนังสือที่มาร่วมงานน้อยลงมากๆ บางร้านที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ยังต้องหาสินค้าอย่างอื่นมาขายเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เงินเพียงพอต่อค่าเช่าที่เลยครับ

สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรจะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคเทคโนโลยี คือการใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางให้กับคนที่ชอบการอ่านโดยอ่านผ่าน E-book อย่างหนังสือพิมพ์บางสำนักก็หันมาทำเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์กันบ้างแล้ว นอกจากจะทำเป็นหนังสือพิมพ์แล้ว ยังทำเป็นหนังสือให้ความรู้ด้วยและยังเผยแพร่ข่าวออนไลน์เพราะคนจะเข้าถึงไวกว่า หนังสือพิมพ์แบบเป็นฉบับ

3. ธุรกิจร้านถ่ายรูป

• www.smartsme.co.th/content/228456

เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ผมมองว่าอาจจะเป็นดาวร่วง เพราะทุกวันนี้ได้เห็นธุรกิจร้านถ่ายรูปลดน้อยลง อย่างรวดเร็ว เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีกล้องมือถือที่พัฒนาจนแทบจะเทียบกล้องโปรฯ ได้เลย ไม่นับรวมแอพพลิเคชั่นต่างๆ อีกนะครับ ขนาดภาพถ่ายติดบัตรยุคนี้ก็ยังปริ้นท์เองได้ง่ายๆ ร้านถ่ายรูปจึงอาาจะกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เสี่ยงเจ๊งได้หากยังไม่มีการปรับตัว มองง่ายๆ เมื่อก่อนนี้ใครจะแต่งงานก็เข้าร้านถ่ายรูปเพื่อถ่ายพรีเว้ดดิ้ง ใครอยากสมัครงานก็ไปถ่ายรูปติดบัตร แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างสามารถทำได้โดยไม่ต้องอาศัย  ร้านถ่ายรูปแล้ว  หากคุณเป็นคนที่รักในการถ่ายภาพ แนวทางหนึ่งที่อาจช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณได้มากขึ้น คือการขายภาพในเว็บไซต์ และนอกจากนี้คุณยังสามารถเปลี่ยนแปลงร้านของคุณให้เป็นร้านเช่าอุปกรณ์ถ่ายรูปได้อีกด้วย

วันนี้เมื่อคุณจับเทรนด์ธุรกิจได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการหาไอเดียมาปรับให้เข้ากับธุรกิจคุณ เตรียมตัวรับมือกับเทนรด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ธุรกิจยังอยู่รอดต่อไป และผมขอย้ำว่าการทำธุรกิจในปีหน้าจะยากยิ่งขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจออนไลน์ และคุณจะต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะกระแสของการทำธุรกิจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โลกเปลี่ยนแปลงไปในทุกวัน หากคุณปรับตัวไม่ทัน ผมเกรงว่าธุรกิจของคุณคงจะหยุดอยู่กับที่และคู่แข่งวิ่งแซงคุณไปได้เลยในปีหน้า

5 สัญญาณ ที่บอกว่าธุรกิจคุณต้องทำ Google AdWords เดี๋ยวนี้

 

เว็บไซต์ :  https://www.adsidea.net
Facebook: Adsidea ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์สร้างยอดขายง่ายนิดเดียว

บรรทัด:  http://line.me/ti/p/%40adsidea

 

อ้างอิง :

• www.taokaemai.com/ธุรกิจน่าลงทุนปี-2020/

• www.thebangkokinsight.com/224/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า